การเลือกใช้ยารักษาสิว...สิวหายทันใจถ้ารักษาถูกวิธี

2. ยาทา Benzoyl peroxide ชนิดครีมหรือเจล 2.5% 5% เช่น Aknederm 2.5% และ 5% ช่วยลดปัญหาสิวอุดตัน หน้ามัน ตัวยาจะช่วยละลายหัวสิว ลดการอุดตันของสิว และฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิว ควรเริ่มใช้ในขนาดความเข้มข้นต่ำคือ 2.5%ก่อน โดยทาก่อนล้างหน้าเช้า เย็น ทิ้งไว้ 5-15 นาที แล้วล้างออก  หากทาทิ้งไว้นานเกินไปจะทำให้ผิวหนังแสบ แดง และลอกได้             

3. กลุ่มยาทาฆ่าเชื้อ สำหรับคนที่เป็นสิวแบบมีหัว, เป็นหนอง ควรทายาฆ่าเชื้อสิวหลังล้างหน้าอาจใช้แบบรูปแบบโลชั่น เช่น Clinda-M สำหรับทาทั่วหน้า กรณีเป็นหลายบริเวณ หรือใช้เป็นรูปแบบเจล เช่น Vitara Clinda gel, Erazyt Anti-acne Gel ทาเฉพาะบริเวณที่มีหัวหนองขึ้นมา เพื่อให้ตัวยาอยู่ได้นานขึ้น และเป็นฟิล์มเคลือบเอาไว้

4. Salicylic acid  เช่น Provamed Acni Clear Rapid Clear gel เป็นส่วนผสมที่พบในเจลแต้มสิว เลือกใช้เจลแต้มสิว เมื่อผิวเริ่มเกิดเป็นรอยนูนแดง หรือสิวกำลังจะขึ้น ให้แต้มเจลแต้มสิวนี้ตรงบริเวณหัวสิว ทั้งเช้าและเย็น หลังล้างหน้า

กรดนี้จะช่วยละลายขุยทำให้สิ่งสกปรกหลุดออก ลดปัญหาการอุดตันและช่วยฆ่าเชื้อ          

5. Sulfer ที่รู้จักกันดี คือ ผงพิเศษ ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ช่วยผลัดเซลล์ผิว ลดการอุดตัน  เป็นยาที่ใช้กันมาตั้งแต่แรกเริ่ม โดยมากต้องผสมกับสารชนิดอื่น เช่น alcohol,salicylic acid,resorcinol ยาชนิดนี้มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ แต่ยาทาส่วนใหญ่ก็มีตัวยานี้ผสม

6. Retinoids หรือกลุ่มกรดวิตามินเอ  เป็นยาทารักษาสิวที่มีความรุนแรงปานกลางจนถึงชนิดรุนแรงที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยาชนิดอื่น ยา Retinoids จะช่วยสลายเซลล์ที่อุดตัน ลดการสร้างไขมัน และช่วยผลัดเซลล์ผิว ทำให้ยาชนิดอื่นสามารถออกฤทธิ์ได้เต็มที่ นอกจากนั้นยานี้ยังป้องกันการเกิดแผลเป็น  แต่มีข้อเสีย คือ จะทำให้ผิวไวต่อแสงเพิ่มขึ้น ฉะนั้นต้องหลีกเลี่ยงการถูกแสงจัด ควรทากันแดดทุกครั้งก่อนออกแดด ตัวนี้จึงให้ทาเฉพาะก่อนนอน

กลุ่มยารับประทาน : สำหรับคนที่เป็นสิวอักเสบ รุนแรง ทั่วทั้งใบหน้า

1. ยาปฏิชีวนะ

• Tetracyclin เป็นยาที่ใช้รักษาสิวตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันมักจะให้ในรายที่ผู้ป่วยเป็นสิวค่อนข้างมากตั้งแต่สิวที่เป็นหนองโดยเริ่มต้น 500-1000 มิลิกรัมต่อวัน เมื่อดีขึ้นจึงลดขนาดของยาลง และอาจจะต้องให้ยาในขนาดต่ำเพื่อป้องกันการกลับเป็นซ้ำไม่ควรให้ยานี้ในเด็กและคนท้อง
• Erythromycin สำหรับผู้ที่แพ้  tetracyclin เช่น เด็ก คนท้อง คนที่แพ้ยา tetracyclin
• Minocycline Doxycycline เป็นยาสังเคราะกลุ่มtetracycline ห้ามใช้ในคนท้อง
• Amoxycillin สำหรับคนเป็นสิวอักเสบ

2. ยาคุมกำเนิดหรือกลุ่มฮอร์โมน

• estrogen เป็นฮอร์โมนที่ออกฤทธิ์ต้านฮอร์โมนแอนโดรเจนทำให้มีการสร้างไขมันลดลง
• ยาคุมกำเนิด นิยมใช้รักษาสิวมากกว่า estrogen เดี่ยวๆเนื่องจากผลข้างเคียงต่ำกว่าอาจจะมีอาการคลื่นไส้อาเจียน คัดเต้านม การใช้ยาคุมเมื่อการรักษาวิธีอื่นแล้วไม่ได้ผล

3. Steroid จะใช้ในกรณีที่เป็นสิวมาก ควรจะใช้ในระยะเวลาสั้นๆ เพราะหากใช้ในระยะเวลานานจะเกิดโรคแทรกซ้อน

4. Isotretinoin เป็นยาที่ใช้ได้ผลสำหรับสิวที่ดื้อต่อยาหรือการรักษา เหมาะสำหรับสิวหัวช้าง cystic acne ใช้รักษาสิวชนิดดื้อต่อการรักษาชนิดอื่นยานี้จะทำให้ไขมันและเชื้อลดลงจึงไม่เกิดสิว ยานี้มีผลข้างเคียงมากจึงไม่แนะนำให้ซื้อรับประทานเองผลข้างเคียงที่พบได้คือปากแห้ง ผิวแห้งแตก ตาแห้ง ผมร่วง ปวดกล้ามเนื้อ ปวดข้อ ซึมเศร้า  สำหรับคนท้องก็อาจจะทำให้เด็กเกิดมาพิการและแท้ง ผลข้างเคียงอื่นๆที่พบได้แก่คลื่นไส้อาเจียนปวดข้อปวดกระดูก ปวดหัว การใช้ยานี้ต้องคุมกำเนิด และหากต้องการตั้งท้องต้องหยุดยานี้ 1 เดือน